
จุลินทรีย์ในน้ำพลูคาวมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง ภูมิต้านทาน
เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น ก็จะสามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆที่เข้ามาสู่ภายในได้
และมีการพิสูจน์ยืนยันผลอย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตราย
ประมาณปี ๒๕๔๗ เภสัชกรปราณี ชวลิตธำรง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในขณะนั้น ได้นำพลูคาวจากจังหวัดเชียงใหม่มาวิจัย
เพื่อจัดทำให้เป็นมาตรฐาน ทำให้ผักคาวตอง ซึ่งชาวเหนือคุ้นเคยกันดี กลายเป็น
สินค้าที่ส่งออกไปขายทั่วโลก และมีการจดสิทธิบัตร ทั้งในแง่ของการเป็นยาและ
เครื่องสำอาง เป็นตัวยาที่สำคัญ เพื่อรักษาโรคมะเร็ง
พลูคาว หรือคาวตอง มีกลิ่นคาวของผัก จึงทำให้มีชื่อเรียกว่า ผักคาวตอง หรือ
ใบพลูคาว และด้วยกลิ่นคาวของใบพลูคาวนี่เอง ที่ทำให้เกิดความอัศจรรย์ในการ
รักษาโรคร้าย และไม่เคยมีผู้ใดคาดคิดมาก่อนเลยว่า จะสามารถนำมาทำเป็น
น้ำหมักชีวภาพแล้ว จะไม่ส่งกลิ่นคาวอย่างรุนแรงเหมือน ทานสดๆ
เมื่อนำผักคาวตองมาผ่านกรรมวิธีหมักน้ำชีวภาพ จะทำให้กลิ่นคาวหายไป และ
ก่อเกิดสิ่งมีชีวิตเล็กๆขึ้นซึ่งภายหลัง สิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เป็นจุลินทรีย์เหล่านี้ ได้สร้าง
ความอัศจรรย์ และก่อผลดีอย่างอเนกอนันต์ต่อชีวิตของมนุษย์ อย่างล้นเหลือ

ได้มีการนำ น้ำสกัดชีวภาพพลูคาว ไปวิจัยและค้นพบว่า จุลินทรีย์ในน้ำสกัด
มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ มีผลทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และ
ไม่มีสารตกค้างใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย คณะนักวิจัยเรื่องนี้ ยังได้ทราบ
ข้อเท็จจริงว่า สีแดงที่อยู่ใต้ใบพลูคาวนั้น เป็นตัวชี้วัดว่ามี เภสัชสาร ซึ่งเป็น
สารเฮลดีแบคทีเรีย และยังมี แลคโตบาซิลลัสสายพันธุ์หนึ่ง ที่สามารถกระตุ้น
ภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนุษย์ให้ทำงานได้ดีขึ้นอย่างมาก
น้ำพลูคาว มีฤทธิ์เป็นด่างอย่างแรง สามารถไปยับยั้งการเจริญเติบโต และ
เซลล์ที่ผิดปกติ โดยเฉพาะ เซลล์มะเร็ง และต้านทานเนื้องอก(Anit-tumor)
ทุกชนิด กับยังทำให้ร่างกายมีประจุลบเพื่อไปทำลาย อนุมูลอิสระในร่างกาย
น้ำพลูคาว มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ นักวิจัยพบว่า สารฟลาโวนอยด์ ช่วยเพิ่มการไหลเวียน
ของเลือดไปเลี้ยงไต จึงมีผลเพิ่มการขับปัสสาวะ

น้ำพลูคาว มีฤทธิ์ ต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส โรคผิวหนังทุกชนิด
กลิ่นจากน้ำพลูคาว ยังสามารถยับยั้งการเจริญของไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัด
ป้องกันไวรัสต้นเหตุของ โรคเริม ไวรัสเอดส์ และทำลายเซลล์มะเร็ง เนื้องอก
ในประเทศจีนมีการใช้ พลูคาว เป็นส่วนประกอบในตำรับยาผง และยาฉีด
ในการรักษาโรคมะเร็ง
น้ำพลูคาว กระตุ้นภูมิคุ้มกันเป็นหลัก ต้านการอักเสบและระงับการปวดได้
โดยออกฤทธิ์เช่นเดียวกับยาแก้ปวด และยาลดการอักเสบ แต่ไม่มีผลข้างเคียง
หรือตกค้างเป็นสารพิษอยู่ในตับ

ถ้าไม่มีน้ำผึ้ง เตรียมน้ำเปล่า 150 มล.(ประมาณครึ่งแก้ว) แล้ว
ตวงน้ำสกัด ตรีผลาพลูคาว ใส่ลงไป 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วดื่ม แล้ว
ก็ตามด้วยน้ำเปล่าอีก 1 แก้ว รับประทานวันละ 2 เวลา
ก่อนอาหารเช้า กับ ก่อนอาหารเย็น
ถ้ามีน้ำผึ้ง เตรียมน้ำเปล่า 150 มล.(ประมาณครึ่งแก้ว) แล้ว ตวงน้ำสกัด ตรีผลาพลูคาว
ใส่ลงไป 2 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำผึ้งนิดหน่อย คนให้เข้ากันแล้วดื่ม แล้วก็ตามด้วย
น้ำเปล่าอีก 1 แก้ว รับประทานวันละ 2 เวลา ก่อนอาหารเช้า กับ ก่อนอาหารเย็น
ส่วนประกอบ
มะขามป้อม
มะขามป้อม เป็นสมุนไพรที่มีมาแต่สมัยพุทธกาล เป็นผลไม้ที่เป็นโอสถในตัว
พระภิกษุสามารถเก็บไว้ฉันได้แม้ในยามวิกาล มะขามป้อมมีวิตามินซีสูงมาก
กล่าวกันว่ามีมากกว่าแอปเปิ้ลถึง 160 เท่า เปรียบเทียบได้ว่า กินมะขามป้อม
เพียง 1 ผล ก็จะได้รับวิตามินซีเพียงพอสำหรับร่างกายใน 1 วัน ในมะขามป้อม
ยังมีแร่ธาตุมากมาย อาทิเช่น ฟอสฟอรัส แมกนีเซีย กำมะถันเหล็ก แมงกานีส
สังกะสี คอปเปอร์ โซเดียม เซเลเนียม มีมากกว่าแอปเปิ้ลหลายเท่าตัว ช่วย
บำรุงร่างกายให้แข็งแรง บำรุงผม สมอง ดวงตา คอ หลอดลม ปอด หัวใจ กระเพาะ
ลำไส้ ตับ ไต ตับอ่อน ผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย ปรับประจำเดือนให้มาปกติ
บำรุงเลือด บำรุงกำลัง ช่วยลดความดันเลือด ลดน้ำตาล ลดไขมัน กล่าวได้ว่า
อวัยวะแทบทุกส่วนของร่างกาย ได้รับประโยชน์จากมะขามป้อม ล่าสุด พบว่า
มะขามป้อมยังมีฤทธิ์ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันสารพิษพวก
โลหะหนักได้ ที่ทำให้เป็นพิษต่อตับ ต้านมะเร็งได้ และ มะขามป้อมยังเป็น
ผลไม้ที่มีสารแอนตี้ออกซิเดชั่นอย่างแรง แรงส์สุดๆแบบติดเทอร์โบ
หมอพื้นบ้านของไทย นิยมใช้ผลมะขามป้อมแก้โรคภัยสารพัด เช่น แก้หวัด
แก้ไอ ขับเสมหะ รักษาโรคลักปิดลักเปิด ริมสีดวงทวาร ดีซ่าน เป็นยาระบาย
เป็นยาบำรุง สรุป มะขามป้อม ถือว่าเป็นยาอายุวัฒนะของคนไทยนั่นเอง
สมอไทย สรรพคุณ :
สมอไทย (Chebulic Myrobalans) เป็นจัดเป็นผลไม้ป่าที่ให้รสเปรี้ยวอมฝาด เมื่อรับประทานแล้วจะกระตุ้นให้น้ำลายไหล มีความอยากอาหาร นิยมรับประทานในรูปผลไม้ผลสดจิ้มกับเกลือ สมอไทยดอง หรือ สมอไทยแช่อิ่ม ซึ่งผลสมอไทยมีสรรพคุณทางยาในหลายด้าน อาทิ ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทาน และป้องกันโรคมะเร็ง
สมอพิเภก สรรพคุณ :
สรรพคุณ ตำรายาไทย ผลอ่อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ และไข้เจือลม เป็นยาระบาย ยาถ่าย ผลแก่ แก้เสมหะจุกคอ ทำให้ชุ่มคอ แก้โรคตา แก้ธาตุกำเริบ บำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้ริดสีดวง แก้ท้องร่วงท้องเดิน รักษาโรคท้องมาน เมล็ดใน แก้บิด แก้บิดมูกเลือด
กระชายดำ
กระชายดำ เป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ รักษา ปากเปื่อย, ปากเป็นแผล,
ตกขาว, ขับปัสสาวะ, รักษาโรคบิด, ปวดมวนในท้อง, โรคกระเพาะอาหาร และ
ยังพบว่าในกระชายดำมีฤทธิ์ในการรักษาเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง และ
รักษาอาการเหน็บชา ลดอาการปวดเมื่อย, เมื่อยล้า, ปวดข้อ, ปวดหลัง
เนื่องจากการทำงานหนัก หรือ ยืน, เดินเป็นเวลานาน
พลูคาว
สีแดง ใต้ใบพลูคาว เป็นที่อยู่ของ จุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ สายพันธุ์
แลคโตบาซิลลัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์กลุ่มที่ดีเยี่ยม มีประโยชน์อย่างเอนกอนันต์
ผ่านการศึกษาค้นคว้ามาอย่างจริงจังมายาวนานนับสิบๆปี มีผลการวิจัยรองรับ
จากหลายสถาบัน การันตีว่า สามารถทำลายเซลล์เนื้องอกและเซลล์มะเร็งได้
โดยเฉพาะ มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือด ที่สำคัญยังไปกระตุ้นให้เกิดการ
สร้างภูมิคุ้มกัน สรรพคุณของพลูคาว ถือเป็นยาอายุวัฒนะไม่แพ้มะขามป้อม
สร้างเสริมบำรุงไปทั่วร่างกาย คนที่เป็น ไอ จาม หวัดเรื้อรัง หอบหืด โรคภูมิแพ้
อยากให้หายขาด ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ต้นเหตุคือร่างกายขาดภูมิคุ้มกันโรค พลูคาว
ช่วยคุณได้ นอกจากนั้นยัง รักษาอาการอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ มีฤทธิ์ในการ
ทำลายเชื้อไวรัสเอดส์ เริม งูสวัด ริดสีดวง ต่อมทอมซิล ทำลายเชื้อแบคทีเรีย
แก้โรคท้องเสีย สิว ระบบสืบพันธุ์ ทำลายเชื้อรา สะเก็ดเงิน กลาก เกลื้อน
ฮ่องกงฟู้ด รักษาน้ำเหลือง แผลเบาหวาน แผลริดสีดวง ขยายหลอดเลือด
ช่วยการไหลเวียนของเลือด เส้นเลือดตีบตัน ขับปัสสาวะ ขับสารพิษ
ขับสารเคมี ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ออกทางอุจจาระ และปัสสาวะ
- ร่างกายของเรากลับมามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ทำให้หายป่วยจากโรคต่างๆ
-
ขนาด : 750 ซีซี
-